เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 มกราคม น.ส.กานดา สายทุ้ม อายุ 36 ปี อาชีพทำธุรกิจออนไลน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งย่านบางลำพู ปลองแปลงลายมือชื่อเพื่อทำกรมธรรม์ประกันชีวิต หลังจากเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา น.ส.กานดา เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เดชฤทธิ์ ชอบเรียบร้อย รอง สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม เพื่อแจ้งความผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง หลังจากเมื่อปี 2557 น.ส.กานดา ได้รับโทรศัพท์จากธนาคารชักชวนให้ทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันชื่อดัง แต่น.ส.กานดาได้ปฏิเสธไม่ทำประกัน กระทั่งวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา น.ส.กานดา รับใบแจ้งหนี้จากบริษัทประกัน ทวงหนี้ประกันชีวิตที่ค้างชำระปีที่3 งวดที่3 เลยกำหนดชำระ จึงทราบว่าเกิดการปลอมแปลงลายเซ็นขึ้น จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
น.ส.กานดา เปิดเผยว่า ตนได้ปฏิเสธการทำประกันชีวิตกับทางธนาคารไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นความสะเพร่าที่ไม่ตรวจสอบสลิปบัตรเครดิตให้ละเอียด ในช่วง 2 ปีแรก คือปี 2557 และปี 2558 ถูกหักเงินค่าประกันชีวิตจำนวน 63,950 บาท รวมเป็นเงิน 127,900 บาท กระทั่งบัตรเครดิตหมดอายุ และพี่สาวไปทำธุระที่ธนาคาร ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงมอบใบแจ้งหนี้มาให้ ทำให้ทราบว่าเกิดการปลอมลายเซ็น จึงเดินทางไปสอบถามที่ธนาคาร ทางพนักงานธนาคารยอมรับว่าได้ปลอมลายเซ็นจริง และจากการตรวจสอบลายเซ็นพบว่าไม่ตรงกัน ก่อนที่พนักงานธนาคารคนดังกล่าวจะนำเงินที่คาดว่าเป็นเงินส่วนตัวมาคืนครบตามจำนวนที่จ่ายไป 2 งวดแรก แต่ไม่ได้เป็นการทำตามขั้นตอนของระบบธนาคาร จึงได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี
“จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยเห็นกรมธรรม์ที่ทำประกันชีวิต เนื่องจากตลอด2ปีที่ผ่านมา ใบแจ้งกรมธรรม์จะถูกส่งไปยังธนาคาร ส่วนผู้ช่วยผู้จัดการคนดังกล่าวรู้จักมานานหลายสิบปี แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด” น.ส.กานดา กล่าว
พ.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ทันทีที่ทราบเรื่องได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก พนักงานคนดังกล่าวเข้ามาให้ปากคำ โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกสอบพยานแวดล้อม พร้อมทั้งนำพยานหลักฐานที่ น.ส.กานดา มอบให้มาตรวจสอบเพิ่มเติม หากมีความผิดจริงจะดำเนินการแจ้งข้อหาทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสาร หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร อันน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจริง โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามคดีนี้ถือว่าเป็นคดีสำคัญ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับประชาชนทั่วไปให้ตรวจสอบ การทำธุรกรรม หรือกรมธรรม์กับทางธนาคารให้ละเอียด และควรติดตามตรวจสอบยอดเงินในบัญชีให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันบุคคลฉวยโอกาส และป้องกันการสูญเสียเงินโดยที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา Sokochan บริการจัดเก็บและจัดส่งสำหรับผู้ค้าออนไลน์ในไทยได้จัดกิจกรรม “จากติดลบ… สู่ติดลม ด้วยธุรกิจออนไลน์ 4.0” ขึ้นที่อาคารไปรษณีย์กลาง ซึ่งทีมงานเว็บแบไต๋ก็ได้มีโอกาสร่วมงานในครั้งนี้ จึงขอสรุปความรู้ทั้งหมดในงานให้อ่านกัน
19 พฤษภาคม 2559 – ไฟร์อาย อินคอร์เปอเรชั่น (NASDAQ : FEYE) ผู้นำด้านการหยุดยั้งภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูงในปัจจุบันเผยถึงผลสำรวจว่า กว่า 43% ขององค์กรในประเทศไทยตกเป็นเป้าของภัยคุกคามทางไซเบอร์ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ซึ่งอัตราดังกล่าวนับเป็นตัวเลขที่สูงเกือบ 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก (ค่าเฉลี่ยทั่วโลกคือ 15%)
ทางทีมงานแบไต๋ได้ข่าวด่วนแบบสุด ๆ จากเว็บบอร์ดชื่อดัง Reddit ว่า มีผู้ใช้งานโปรแกรม Teamviewer หลายคนถูกบุกรุก ในช่วงเวลากลางคืนตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเหล่าผู้โจมตี (คาดว่ามีหลายคน) ได้เจาะเข้ามาเพื่อล็อกอินเข้าสู่บริการ Internet Banking ผ่านทาง User และ Password ที่ถูกเซฟเอาไว้ใน Browser ของพวกเขาและดึงเอารหัสทั้งหมดบน Browser ผ่านโปรแกรมดึงข้อมูล แถมยังมีการติดตั้งโปรแกรม Ransomware บนเครื่องของเหยื่อที่ถูกเจาะเข้าไปอีกด้วย ซึ่งงานนี้เรียกได้ว่าเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างเลยทีเดียว
เรียกได้ว่างานนี้ใครที่กำลังใช้ Winrar อยู่อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นมากกว่าเดิมนะครับ เพราะมีผู้พบช่องโหว่บนโปรแกรมบีบอัดไฟล์ที่เราคุ้นเคยกันดี “WinRAR” ที่มีผู้ใช้ทั้งโลกกว่า 500 ล้านคนจะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้หากไม่ระวัง !!