นายจัตุรงค์ จันทะโน นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ประกอบการค้าออนไลน์มากกว่า 10 รายได้รวมตัวกันตั้ง “สมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ไทย” ขึ้นมา จดทะเบียนการค้ากับทางกระทรวงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสมาคมการค้าฯนี้จะแตกต่างจากสมาคมของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เน้นกลุ่มผู้ประกอบการเว็บไซต์ แต่สมาคมที่ตั้งขึ้นจะเน้นผู้ประกอบการทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งกลุ่มสมาชิกเจ้าของแบรนด์สินค้า และกลุ่มที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อใช้เป็นพื้นที่ติดต่อ ช่วยเหลือระหว่างผู้ประกอบธุรกิจด้วยกัน และใช้เป็นตัวกลางในการสร้างความเข้าใจกับภาครัฐ ที่อาจยังไม่เข้าใจกลุ่มผู้ประกอบการมากนัก
โดยการจัดตั้งสมาคมเนื่องจากปัจจุบันการค้าแบบโซเชียลคอมเมิร์ซ หรือการค้าผ่านโซเชียล อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากและมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอีคอมเมิร์ซ หรือการค้าผ่านเว็บไซต์ทั่วไป เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันใช้ช่องทางโซเชียลเพื่อติดต่อสื่อสารอยู่แล้ว จึงทำให้การสั่งซื้อสินค้าผ่านโซเชียลสะดวกมากกว่า โดยในเบื้องต้นประเมินว่าการค้าแบบโซเชียลคอมเมิร์ซมีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 5 แสนล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 50% ของการค้าอีคอมเมิร์ซในรูปแบบผู้ประกอบการกับผู้บริโภค (บีทูซี) ซึ่งมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท
“หากเปรียบเทียบการค้าแบบโซเชียลคอมเมิร์ซ จะพบว่าไทยมีการซื้อสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊กสูงที่สุด หรือเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งในกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม อาหารเสริม เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อาหารและสินค้าอื่นๆ และหากมองในแง่ผู้ประกอบการออนไลน์มองว่ามีไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย แต่มักจะเป็นผู้ค้าที่กระจัดกระจายทั่วประเทศ และยังมีลักษณะจดทะเบียนไม่ถูกต้องหรือเป็นร้านค้าใต้ดิน และในอนาคตจะมีกฎหมายใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ออกมามากขึ้น อาทิ การเก็บภาษีออนไลน์ หากผู้ประกอบธุรกิจกับภาครัฐสามารถพูดคุย สร้างความเข้าใจกันได้ จะเป็นการส่งเสริมกลุ่มผู้ค้าสินค้าออนไลน์ทางโซเชียล ให้เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและเป็นระเบียบ เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” นายจัตุรงค์กล่าว
ทางทีมงานแบไต๋ได้ข่าวด่วนแบบสุด ๆ จากเว็บบอร์ดชื่อดัง Reddit ว่า มีผู้ใช้งานโปรแกรม Teamviewer หลายคนถูกบุกรุก ในช่วงเวลากลางคืนตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเหล่าผู้โจมตี (คาดว่ามีหลายคน) ได้เจาะเข้ามาเพื่อล็อกอินเข้าสู่บริการ Internet Banking ผ่านทาง User และ Password ที่ถูกเซฟเอาไว้ใน Browser ของพวกเขาและดึงเอารหัสทั้งหมดบน Browser ผ่านโปรแกรมดึงข้อมูล แถมยังมีการติดตั้งโปรแกรม Ransomware บนเครื่องของเหยื่อที่ถูกเจาะเข้าไปอีกด้วย ซึ่งงานนี้เรียกได้ว่าเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างเลยทีเดียว
เทรนด์ไมโคร อินคอร์ปอเรทเต็ด ผู้นำด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก เปิดเผยรายงานคาดการณ์ประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในชื่อ “The Next Tier – 8 Security Predictions for 2017” ซึ่งคาดการณ์ว่าปี 2560 จะเกิดการโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างและเจาะลึกมากขึ้น โดยนักโจมตีที่มุ่งร้ายจะใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างหลากหลายเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลง
บริษัท เทรนด์ไมโคร (TYO: 4704; TSE: 4704) ผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์และโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัย มุ่งมั่นที่จะปกป้องลูกค้าและผู้บริโภคให้รอดพ้นจากการโจมตีด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน เพียงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เทรนด์ไมโครสามารถปิดกั้นภัยคุกคามจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) กว่า 100 ล้านรายการให้ลูกค้า โดย 99 เปอร์เซ็นต์ของภัยคุกคามที่ปิดกั้นมาจากอีเมล์และเว็บแทรฟฟิก พร้อมนำเสนอภาพรวมการปกป้องตนเองด้วยการตระหนักถึงการเติบโตและผลกระทบของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ดังนี้:
19 พฤษภาคม 2559 – ไฟร์อาย อินคอร์เปอเรชั่น (NASDAQ : FEYE) ผู้นำด้านการหยุดยั้งภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูงในปัจจุบันเผยถึงผลสำรวจว่า กว่า 43% ขององค์กรในประเทศไทยตกเป็นเป้าของภัยคุกคามทางไซเบอร์ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ซึ่งอัตราดังกล่าวนับเป็นตัวเลขที่สูงเกือบ 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก (ค่าเฉลี่ยทั่วโลกคือ 15%)