ราชกิจจานุเบกษากำหนด แนวปฎิบัติงานด้านสุขภาพกับสื่อสังคมออนไลน์
18 ต.ค. 60 สุขภาพ 2689

ภาพกราฟิกลิขสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  24 มีนาคม 2560  เว็บไชต์ราชกิจนุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ พ.ศ. 2559  ตามที่มาตรา 7แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 บัญญัติให้ข้อมูลด้าน สุขภาพของบุคคลเป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนําไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทําให้บุคคลนั้นเสียหาย ไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรงหรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติ ให้ต้องเปิดเผย

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้เล็งเห็นความสําคัญในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของ ผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ เนื่องจากปัจจุบันมีการนําสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) มาใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งในเรื่องการทํางานและเรื่องการดําเนินชีวิต หากมีการใช้ไม่เหมาะสมอาจทําให้เกิดปัญหาในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลด้านสุขภาพของผู้รับบริการสาธารณสุข จึงได้กําหนดแนวทางปฏิบัติในการใช้งาน สื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพขึ้น เพื่อนําไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของหน่วยงาน ด้านสุขภาพ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กว้างขวางมากขึ้น

โดยอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 25(10)  แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550  ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 5/2559   เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559  คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจึงประกาศแนวทางปฏิบัติในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามท้ายประกาศนี้เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30  ธันวาคม พ.ศ. 2559  ลงนามโดย  พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

สำหรับแนวทางปฏิบัติฉบับนี้เป็นแนวทางเบื้องต้นที่คณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะในสถานพยาบาล และองค์กรต่างๆรวมไปถึงการสาธารณสุขชุมชน  ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรนำไปใช้ควบคุมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านสุขภาพโดยตรง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในความดูแลของตนเพื่อให้ใช้สื่อออนไลน์ทั้งในการทำงานและเรื่องส่วนตัว เนื่องจากการใช้งานในเรื่องส่วนตัวต้องคำนึงถึงวิชาชีพด้วย   และการเผยแพร่สิ่งต่างๆผ่านสื่อออนไลน์นอกเวลางานต้องมีสติ คํานึงถึงความเหมาะสม และต้องตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสม ป้องการการเข้าถึงจากคนบุคคลภายนอกหรืออาจพิจารณาแยกบัญชีผู้ใช้งานส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกัน เพราะการเผยแพร่ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในวิชาชีพด้วย

พร้อมทั้งต้องมีการศึกษากฎหมาย วินัย จริยธรรม ที่เกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ป่วยหรือระบบสุขภาพโดยรวม  ทั้งนี้ เห็นเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพต้องมีการติดตามสภาพสังคม ทั้งทัศนคติและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แนวทางฉบับดังกล่าวมีการปรับปรุงเป็นระยะๆเนื่องจาก ทัศนคติทางสังคมและเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงต้องมีการปรับแนวปฏิบัติเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อผู้ป่วยทั้ง ร่างกาย สุขภาพ หรือทรัพย์สินโดยแฉพาะกรณีที่เป็นอันตราย หากเจ้าหน้าที่พบเห็นผู้กระทำการที่เข้าข่ายดังกล่าวควรแจ้งให้หยุดกระทำ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องและความมีจริยธรรมของวิชาชีพ ฯลฯ

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

จู่โจมบ้านพักย่านติวานนท์ เปิดพนันพนันบอลออนไลน์ ยึดคอมพ์ ปืน อุปกรณ์พนันเพียบ


18 ต.ค. 60  พนันออนไลน์

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 12 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. และพ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. ร่วมกับสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 74/1147 ซอยพานสัมฤทธิ์ 16 ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.

ฟร้อนต์เพจ ออนไลน์ :เลิกสักที “เผด็จการ…สุขภาพ”


18 ต.ค. 60  สุขภาพ

ผู้เขียนสราวุฒิ สิงห์เอี่ยม วันที่ 22-23 ธันวาคมนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุมพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับ หนึ่งในนั้นคือ ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยจะมีการแก้ไขร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อ

เพจดัง ร้องมหา’ลัยชื่อดัง ภาคเหนือ สอบนศ.เน็ตไอดอล จ้างคนเข้าเรียน


18 ต.ค. 60  เน็ตไอดอล

ภาพจากเพจเฟซบุ๊กDarkside Social เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลายเป็นประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มนักศึกษา หลังจากเว็บเพจเฟซบุ๊ก “Darkside Social” โพสต์ข้อความถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัย และคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่