พณ.เพิ่ม2บริการควบคุม ขนส่งสินค้าออนไลน์-บริการรับชำระเงิน ฝ่าฝืนโทษหมื่นบาท/ครั้ง
18 ต.ค. 60 รัฐ/กฎหมาย 1475

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าภายหลังประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) ครั้งที่ 1/2560 ว่า มติที่ประชุมได้มีการทบทวนรายการสินค้าและบริการควบคุม และมาตรการกำกับดูแลปี 2560 แทนมาตรการกำกับดูแลปี 2559 จะสิ้นสุดในวันที่ 24 มกราคม 2560 ประกอบด้วย 1. เพิ่มรายการสินค้าและบริการควบคุมจากเดิม 45 รายการ แบ่งเป็น 42 สินค้า และ 3 บริการ เพิ่มเป็น 47 รายการ แบ่งเป็น 42 สินค้าและ 5 บริการ ทั้งนี้ สินค้าควบคุมคงเดิม 42 รายการ โดยปรับชื่อสินค้า 1 รายการควบคุม จากนมผง นมสด เป็น นมผง ผลิตภัณฑ์นมพร้อมบริโภคชนิดเหลว ไม่รวมถึงนมเปรี้ยว เพื่อให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์นมสดประเภทอื่นๆ

ส่วนบริการควบคุมคงเดิม 3 รายการ โดยเปลี่ยนชื่อบริการ 1 รายการจาก บริการรับฝากสินค้าหรือบริการให้เช่าสถานที่เก็บสินค้า เป็น บริการให้เช่าสถานที่เก็บสินค้า เนื่องจากมีพ.ร.บ.คลังสินค้า ไซโลและห้องเย็น พ.ศ. 2558 ใช้บังคับโดยตรงกับบริการรับฝากสินค้า และเพิ่มอีก 2 รายการบริการควบคุม คือ บริการขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจออนไลน์ และบริการรับชำระเงิน ณ จุดบริการ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนนิยมใช้บริการเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติทบทวนมาตรการกำกับดูแลสินค้าและบริการควบคุม เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดของสินค้า จำนวน 5 รายการ ได้แก่ ปรับเพิ่มรายละเอียดมาตรการ 1 รายการ คือ ข้าวสาลี จากเดิมให้แจ้งปริมาณนำเข้าและราคา และแจ้งแผนนำเข้าทุก 3 เดือน โดยให้เพิ่มพิกัดศุลกากร และแจ้งเปลี่ยนแปลงแผนการนำเข้าได้ 1 ครั้ง และปรับเปลี่ยนมาตรการใน 4 รายการ ได้แก่ 1.กระดาษชำระ กระดาษเช็ดหน้า จากเดิมให้แจ้งราคาให้ทราบล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนแปลงราคา เป็นให้แจ้งราคาหลังการเปลี่ยนแปลงทันที  2. รถจักรยานยนต์ รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุก จากเดิมให้แจ้งราคาเป็นประจำเดือน เป็นแจ้งราคาหลังเปลี่ยนแปลงราคาทันที  3. มันสำปะหลังสดและมันเส้น และ 4. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ควบคุมการขนย้าย โดยยกเลิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และเพิ่มเติมอ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี

สำหรับการทบทวนรายการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ โดยยกเลิก 1 รายการ คือฟิล์มถ่ายรูป ส่วน 237 รายการเดิมยังคงเดิม ส่วนแสดงค่าบริการ จากเดิม 48 รายการ เพิ่มเป็น 49 รายการ โดยเพิ่มรายการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านระบบอีคอมเมิร์ชหรือออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก  รวมถึงเพิ่มกำกับดูแลการแสดงราคาและรายละเอียดการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านระบบพาณิชย์อิเล็คทรอนิคส์หรือออนไลน์ ให้แสดงราคา ประเภทหรือชนิด ขนาด น้ำหนัก รายละเอียดของสินค้าและค่าบริการ พร้อมรายละเอียด รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆให้เห็นอย่างชัดเจนและครบถ้วน ทั้งนี้ กรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาและรายละเอียด มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ บริการควบคุมเกี่ยวกับขนส่งออนไลน์และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นการควบคุมให้มีการแสดงราคาให้ชัดเจน แต่ยังไม่มีการควบคุมในเรื่องค่าขนส่งหรือค่าบริการ

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทลายบ้านเจ้ามือพนันบอลออนไลน์ ด่านช้าง สุพรรณบุรี


18 ต.ค. 60  พนันออนไลน์

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รองผกก.ปพ.บก.ป. ร.ต.ท.สุขัจพงศ์ ศรีวิตตวชิระ รองสว.กก.ปพ.บก.ป. สนธิกำลังตำรวจสภ.ด่านช้าง นำโดยพ.ต.ท.กิตติ เฟื่องฟู รองผกก.สส.สภ.ด่านช้าง พ.ต.ท.ปัญญา สุวรรณสิงห์ สว.สส.สภ.ด่

ปิดล้อม 8 จุดมหาชัย แหล่งขายปืนออนไลน์ ‘ผู้การโจ๊ก’ เผยกดดันหนัก นักค้าลดลง 60%


18 ต.ค. 60  อาวุธออนไลน์

วันที่ 13 มกราคม 2560 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนต์ รองผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท. นำกำลังตำรวจ สปพ. ตำรวจท่องเที่ยว และ สภ.เมือง

ผุดแคมเปญต้านเพจ Dad Mom and Kids ร้องแพทย์สภาตรวจจริยธรรม


27 พ.ค. 60  ติดเกมส์

แบไต๋เคยนำเสนอเรื่องราวของนพ. อิทธิฤทธิ์ จุฬาลักษณ์ศิริบุญ ผู้สร้างเพจ Dad Mom and Kids กันไปเมื่อคราวที่คุณหมอแสดงความคิดเห็นต่อต้านวิดีโอเกม ที่ไม่ให้เด็กๆ ในครอบครัวไปเกี่ยวข้องกับวิดีโอเกมใดๆ เลย ล่าสุดเพจ Dad Mom and Kids ของคุณหมอกลายเป็นประเด็นในโลกโซเซียลอีกครั้งเมื่อมีผู้ตั้งแคมเปญรณรงค์ใน Change.org เรียกร้องให้ “แพทยสภา ตรวจสอบจริยธรรม นพ.อิทธิฤทธิ์ จุฬาลักษณ์ศิริบุญ”

เตือนภัย!! คนร้ายปลอมแปลง “สำเนาบัตรประชาชน” ขโมยเงินในบัญชีเกลี้ยง!!


17 ส.ค. 59  Cyber Crime

หลายครั้งที่เราได้ยินเรื่องราวของ “ภัยจากโลกออนไลน์” เช่น การขโมยหรือล่อลวงเงินในบัญชีผ่านการสนทนาทาง Facebook (เฟซบุ๊ก) หรือ การแฮกเข้าบัญชีส่วนตัว Facebook (เฟซบุ๊ก) แล้วสวมรอยเป็นเราทำทีเป็นขอยืมเงินเพื่อนหรือคนใกล้ชิดของเราให้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทางของคนร้าย ซึ่งก็มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายราย และเหล่ามิจฉาชีพพวกนี้ก็ยังคงออกอาละวาด สร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของทรัพย์สินและผู้ที่ถูกสวมรอยเป็นอย่างมาก โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ (เฮ้อ!!)