เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี ผกก.ควบคุมฝูงชน 2 พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ สว.งานสายตรวจ 2 บก.สปพ. พ.ต.ท.ศิรณวิชญ์ อินทร สว.งานสายตรวจ 2 บก.จร. 2 และ ร.ต.อ.จักรกริช เวียงสมุทร รองสว.งานสายตาวจ 2 บก.สปพ. จับกุม นายอุดมชัย ตรีภักดิ์ หรือบังอาร์ม อายุ 27 ปี น.ส.สุวรรณ หรือเมย์ อบสิน อายุ 36 ปี น.ส.ฤทัยรัตน์ หรือเก๋ โสภา อายุ 32 ปี และ น.ส.จิตตา หรือผึ้ง ยะรังวงค์ อายุ 31 ปี พร้อมกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 400 กิโลกรัม กล่องพัสดุเปล่าพร้อมอุปกรณ์สำหรับตัดแบ่งและแพคใส่ยาเสพติด 300 ชุด และเครื่องซีลสุญญากาศ 1 เครื่อง โดยกล่าวหา น.ส.สุวรรณา และ น.ส.ฤทัยรัตน์ ฐานร่วมกันมีกัญชาโดยผิดกฎหมาย และกล่าวหา นายอุดมศักดิ์ และ น.ส.จิตตา ฐานร่วมกันมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครอง ร่วมกันมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามจำหน่ายกัญชาโดยผิดกฎหมาย โดยจับกุมได้ที่ทำการไปรษณีย์สาขาอ่อนนุช ต่อเนื่องคอนโดมิเนียมย่านบางนา และบ้านพักเลขที่ 199/301 หมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ ซอยอ่อนนุช 65 เขตประเวศ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ชุดสืบสวนขยายผลปราบปรามยาเสพติด บก.สปพ.สืบสวนเครือข่ายกัญชาในโลกออนไลน์ พบว่าเครือข่าย”ป๋าอาร์ม”มีพฤติกรรมจำหน่ายกัญชาเดือนละไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม มีลูกค้าทั่วประเทศจำนวนมาก และต่อมาชุดสืบสวนโดย พ.ต.อ.สำราญ ร่วมกันจับกุม น.ส.สุวรรณา และ น.ส.ฤทัยรัตน์ พร้อมกัญชาที่แพ็คบรรจุอยู่ในกล่องไปรษณีย์พร้อมส่งให้กับลูกค้า จำนวน 39 กล่อง จากนั้นนำตัวขยายผลรับว่ามีกัญชาซ่อนอยู่ในคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ จึงเข้าตรวจค้นพบนายอุดมศักดิ์ และน.ส.จิตตา พร้อมกัญชาอีกประมาณ 400 กิโลกรัม สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสี่รับว่าร่วมกันจำหน่ายกัญชาออนไลน์ มานาน 3 ปี มีเงินหมุนเวียนเดือนละ30-40ล้านบาท กำไรเดือนละ 1-2 ล้านบาท

ผบก.สปพ. กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหารับว่าขายกัญชาให้กับลูกค้าเดือนละ500กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด ทั้งนี้ชุดสืบสวน บก.สปพ.ยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 เงินสด 8.7 ล้านบาท สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 15 เล่ม รวมประมาณ 6 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน ฆอ 7941 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน 3 กณ 1147 กรุงเทพมหานคร และ ทะเบียน ญต 6711 กรุงเทพมหานคร รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึด 20,160.000 บาท

นายอุดมศักดิ์ รับว่าเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดมานาน 2-3 ปี ติดต่อเอเยนต์ในประเทศลาว ให้นำยาเสพติดมาส่งตามจุดนัดพบ เช่น ย่านหนองจอก จากนั้นจะนำยาเสพติดไปเก็บไว้ที่บ้านเช่า เพื่อเตรียมแบ่งขายตามออเดอร์ลูกค้า แต่ละเดือนจะส่งขายประมาณ20-60กล่อง มีกำไร3-4แสนบาทต่อเดือน ที่ผ่านมาไม่ได้ทำอาชีพอื่นนอกจากขายยาเสพติด ลูกค้าส่วนใหญ่ที่สั่งซื้อเป็นคนไทย ใช้การสั่งซื้อผ่านแอพลิเคชัน”ไลน์” เท่านั้น ส่วนใหญ่มีปลายทางจัดส่งอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช และภูเก็ต